วิธี ลด อาการ ไอ

สำหรับ อาการไอ ในเด็กเล็ก บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งอาการที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด เพราะนอกจากลูกน้อยของคุณจะไม่สามารถนอนหลับได้แล้ว ลูกน้อยของคุณจะสามารถเป็นโรคเรื่องรังที่มี อาการไอ เป็นสาเหตุได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นคุณแม่ควรที่จะรีบหาวิธีรักษา อาการไอ ของลูกน้อยให้หายเร็วมากที่สุด เพื่อที่จะป้องกันโรคต่างๆตามมา และยังช่วยให้ลูกน้อยสามารถได้รับพัฒนาการที่สมวัยอีกด้วย วันนี้เราจึงมีวิธีรักษา อาการไอ สำหรับเด็กน้อยมาฝาก เพื่อจะช่วยให้ลูกน้อยสามารถหายจาก อาการไอ ได้อย่างรวดเร็วนั้นเอง วิธีรักษาและบรรเทา อาการไอ ของเด็กเล็ก 1. ปรับอากาศสภาพแวดล้อมในห้องให้เหมาะสม หากลูกมี อาการไอ อยู่แล้ว อยากช่วยลดอาการของลูก พ่อแม่ควรสังเกตว่าห้องที่ลูกนอนนั้นมีอุณหภูมิที่ต่ำเกินไปหรือไม่ อุณหภูมิที่เหมาะสมกับลูกน้อยควรอยู่ที่ 28 องศาเซลเซียล หรืออาจจะเป็นเพราะอากาศในห้องที่แห้งจนเกินไปหรือเปล่า เนื่องจากอากาศที่แห้งจะกระตุ้นให้เด็กมีอาการคันคอ ไอ จามออกมาเมขึ้น พ่อแม่ก็ควรหาวิธีการเพิ่มความชื้นในห้องเพื่อให้ลูกได้นอนสบายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การจัดที่นอนลูกให้มีความโล่ง ปราศจากตุ๊กตาต่าง ๆ ที่อาจจะเป็นแหล่งสะสมฝุ่นได้ ทำให้ลูกมี อาการไอ หนักมากขึ้น ดังนั้นการปรับสภาพแวดล้อมที่ให้ลูกนอนหลับนั้นก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก 2.

6 วิธีช่วยบรรเทาอาการไอให้หายได้ด้วยตัวเอง - Gosvus

ช่วยลดน้ำมูกให้ลูก การช่วยลูกลดน้ำมูกเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลูกลดน้ำมูกที่จะไหลไปรวมกับเสมหะที่เกิดขึ้นได้ โดยการล้างจมูกให้ลูกก่อนนอน ซึ่งหากมีเสมหะมากจะยิ่งทำให้ลูกรู้สึกเหนียวคอและไออยู่ตลอดเวลา หลังจากช่วยลดน้ำมูกแล้วควรสังเกตการณ์ไอของลูกว่ามีเสมหะมั้ย หากมีควรต้มน้ำอุ่น ๆ ให้ลูกจิบเพื่อลดความเหนียวข้นของเสมหะได้ 3.

ดื่มขิง+น้ำผึ้ง+น้ำมะนาว น้ำขิง 1 ช้อนชา น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำร้อน ½ ถ้วย บีบมะนาวลงไปผสมอีกสักครึ่งซีก น้ำผึ้งมีคุณสมบัติช่วยกำจัดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่ก่อความระคายเคืองในคอได้ ส่วนกรดวิตามินซีในน้ำมะนาวก็จะช่วยเคลียร์ช่องคอให้โล่งขึ้น 3. ดื่มพริกป่น+น้ำร้อน พริกป่นประมาณ 2-3 ช้อนชา ผสมน้ำร้อน 1 ถ้วย 4. ดื่มผงขมิ้นชัน+เกลือป่น+น้ำร้อน ผสมผงขมิ้นชันและเกลือป่นอย่างละ 1 ช้อนชา กับน้ำร้อน 1 ถ้วย 5. ดื่มกานพลูอบแห้ง+น้ำร้อน กานพลูอบแห้ง นำมาบดละเอียด แล้วตักประมาณ 1-3 ช้อนชา ไปผสมกับน้ำร้อน กานพลูมีทั้งสารต้านเชื้อแบคทีเรีย และสารต้านอาการอักเสบ 6. ดื่มน้ำมะเขือเทศ+น้ำร้อน+น้ำพริกดอง ผสมน้ำมะเขือเทศ ½ ถ้วย น้ำร้อน ½ ถ้วย และพริกดอง 10 หยด ทั้งมะเขือเทศ และพริกต่างก็มีไลโคปีน และสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้ 7. ใช้วิคส์ ทาเท้า ใช้วิคส์ทาที่บริเวณเท้าก่อนนอน แล้วสวมถุงเท้าไว้ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ฝ่าเท้าของเรารู้สึกอุ่นๆ ทำให้ลดอาการระคายคอ 8. ยาอมแก้ไอ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นยาสมุนไพรที่มีคุณสมบัติรักษาอาการไอได้ เช่น ยาอมมะแว้ง ยาแก้ไอมะขามป้อม ยาแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว ฯ เป็นต้น 9.

Home > วิธีเช็ดตัว "ลดไข้" ที่ถูกต้อง ควรทำอย่างไร? การเช็ดตัวเพื่อลดไข้ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยในการลดอุณหภูมิในร่างกายนอกเหนือจากการรับประทานยา โดยการเช็ดตัวเป็นการใช้น้ำเป็นตัวช่วยถ่ายเทความร้อนออกจากร่างกาย ในผู้ป่วยเด็ก การเช็ดตัวให้กับทารกหรือเด็กที่มีไข้นั้น หากทำไม่ถูกวิธี อาจทำให้เด็กเกิดอาการชักจากภาวะไข้สูงได้! โดยการเช็ดตัวจะมีประสิทธิภาพนั้นจะต้องทำอย่างถูกวิธี โดยมีคำแนะนำดังนี้ อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม การเช็ดตัว เป็นอีกหนึ่งวิธีในการลดไข้ เพื่อให้น้ำเป็นตัวช่วยถ่ายเทความร้อนออกจากร่างกาย โดยอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมมีดังนี้ น้ำอุ่น ผ้าผืนเล็ก 2-3 ผืน ผ้าขนหนู (สำหรับเช็ดตัว) กะละมัง/อ่าง วิธีการเช็ดตัวลดไข้ที่ถูกต้องควรทำอย่างไร? เตรียมน้ำอุ่นและพื้นที่สำหรับเช็ดตัวให้พร้อม ถอดเสื้อผ้าออก ใช้ผ้าผืนเล็กชุบน้ำ บิดให้หมาด เช็ดบริเวณหน้า เช็ดแขนและขาทั้ง 2 ข้าง (เช็ดจากปลายมือ ปลายเท้าสู่ลำตัวโดยเช็ดย้อนรูขุมขนเพื่อระบายความร้อน) เช็ดหน้าผากและศีรษะ (พักผ้าไว้บริเวณศีรษะ ซอกคอ ซอกรักแร้ ขาหนีบ เพื่อระบายความร้อน) เช็ดลำตัวด้านหน้า พลิกตัวคนไข้นอนตะแคงและเช็ดตัวด้านหลัง หลังเช็ดตัวเสร็จ ควรซับตัวให้แห้ง สวมใส่เสื้อผ้าเบาสบาย หมายเหตุ วัดไข้ซ้ำในอีก 15 – 30 นาทีต่อมา หากไข้ลดลง แสดงว่าการเช็ดตัวลดไข้ได้ผล ผู้ป่วยเด็กมีไข้หมายถึง ผู้ป่วยเด็กมีอุณหภูมิร่างกายมากกว่า 37.

เมื่อมีอาการไอ เจ็บคอ ทำให้หลายคนต้องทุกข์ทรมานเพราะบางครั้งไอในตอนกลางคืน ในขณะทำงาน และอาการไอมักต้องใช้เวลานานกว่าจะรักษาหาย ดังนั้นการรับประทานผักผลไม้ที่มีประโยชน์จะช่วย แก้ไอ ขับเสมหะ ให้หายได้เร็วขึ้น 7 ผักผลไม้ แก้ไอ ขับเสมหะ แก้หวัด!! มะกรูด… เมื่อมีอาการไอ เจ็บคอ ทำให้หลายคนต้องทุกข์ทรมานเพราะบางครั้งไอในตอนกลางคืน ในขณะทำงาน และอาการไอมักต้องใช้เวลานานกว่าจะรักษาหาย ดังนั้นการรับประทานผักผลไม้ที่มีประโยชน์จะช่วย แก้ไอ ขับเสมหะ ให้หายได้เร็วขึ้น 7 ผักผลไม้ แก้ไอ ขับเสมหะ แก้หวัด!!

  1. วิธีรักษาและบรรเทาอาการไอของเด็กเล็ก l แม่บ้านยุคใหม่ แม่บ้าน บ้านและสวน
  2. เม เท โอ
  3. วิธี ลด อาการ ไอ โฟน
  4. กระทะตีทองเหลือง2หู JG - Joy and Benz Ceramic

มะขามป้อง มะขามป้องมีคุณสมบัติรักษาอาการไอได้เป็นอย่างดี มีรสชาติฝาดเปรี้ยวเมื่อทานไปซักพักจะรู้สึกหวาน ชุ่มคอ จิบน้ำสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาอาการไอ การจิบน้ำอุ่นจัด จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ อาการไอได้เป็นอย่างดี ช่วยทำให้ทางเดินหายใจส่วนบน (จมูกและคอ) และเยื่อบุจมูกได้รับความอบอุ่นไปด้วยในตัว จึงช่วยยับยั้งเชื้อหวัดได้อีกทางหนึ่งลองสูตรเครื่องดื่มต่อไปนี้ จิบเป็นพักๆตลอดวัน แทนน้ำเปล่า 1. จิบชาเขียวร้อน ชาเขียวชงเข้มๆ ชาเขียวมีคุณสมบัติเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ แถมยังมีสรรพคุณในด้านต้านการติดเชื้ออีกด้วย 2. จิบมะนาว+น้ำอุ่น ผสมน้ำมะนาว 1 ช้อนชากับน้ำอุ่น 1 ถ้วย วิตามินซีในน้ำมะนาวจะช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส ตัวการทำให้เราระคายเคืองคอ 3. จิบชาราสป์เบอร์รี ใช้ใบชาราสป์เบอร์รี 2 ช้อนชา ผสมกับน้ำร้อนจัด 1 ถ้วย ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ให้ชาละลาย จากนั้นก็กรอง แล้วนำมาจิบ หรือจะกลั้วคอก็ได้เช่นกัน หากใครที่มีอาการไอแห้ง เจ็บคอ ไอเรื้อรัง ก็ลองรักษาเคล็ดลับง่ายๆ เคล็ดลับดีๆที่ นำมาเสนอ สำหรับวันนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่ไข้ นะค่ะ ^^

ดื่มน้ำให้มากขึ้น วิธีที่จะช่วยลดอาการไอลงนั้น การดื่มน้ำ สามารถช่วยได้อย่างมาก ซึ่งนอกจากการดื่มน้ำจะช่วยลดการไอได้แล้ว ยังช่วยดูแลสุขภาพของเราได้อีกด้วย การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ยิ่งในช่วงที่มีอาการไอหรือมีเสมหะในคอ น้ำก็จะช่วยละลายเสมหะให้น้อยลงได้ ส่วนใครที่มีอาการไอแห้ง ๆ น้ำก็จะช่วยให้ความชุ่มชื้นในลำคอได้ ทำให้มีอาการระคายเคืองภายในคอลดลงเช่นกัน เป็นวิธีการดูแลตัวเองที่ง่ายที่สุด 2. ดื่มน้ำอุ่น นอกจากการดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยลดการไอได้แล้วนั้น สำหรับคนที่มีอาการไอ ไม่ว่าจะไอแห้ง หรือมีเสหะ ควรเลือกดื่มน้ำอุ่น แทนการดื่มน้ำเย็น เพราะน้ำอุ่นนั้นสามารถควบคุมอุณหภูมิในร่างกายของเราได้ ทั้งยังช่วยละลายเสหะ แก้เจ็บคอได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังให้ความชุ่มชื้นภายในลำคอได้ดีกว่าน้ำเย็น นอกจากนี้ยังสามารถเลือกดื่มน้ำอุ่นผสมน้ำผึ้งมะนาวระหว่างวัน ก็สามารถช่วยเรื่องอาการไอ และการเจ็บคอได้เช่นกัน 3. อมยาแก้ไอ เมื่อเลือกที่จะดื่มน้ำอุ่นไปเรื่อย ๆ แล้วนั้น หากคุณเกิดอาการไอ หรืออาการเจ็บคอระหว่างวัน หรือเมื่อออกไปทำธุระข้างนอกนั้น การอมยาแก้ไอ เป็นตัวช่วยที่จะลดอาการไอ เจ็บคอของคุณได้เป็นอย่างดี สำหรับใครที่อยากจะบรรเทาอาการไอที่สร้างความลำบากให้ชีวิตนั้น ควรรีบหายาแก้ไอมาอมทันที เพราะในยาแก้ไอจะมีส่วนประกอบที่จะช่วยลดอาการระคายเคืองภายในลำคอได้ ซึ่งยาอมแก้ไอในปัจจุบันนั้นก็หาซื้อได้ง่าย แถมยังมีหลายรสชาติให้เลือกอีกด้วย 4.

8 C การเช็ดตัวลดไข้ ควรทำนานประมาณ 10-20 นาที หรือตามความเหมาะสม และควรเปลี่ยนน้ำในอ่างบ่อยๆ เพื่อรักษาอุณหภูมิของน้ำให้อุ่นคงที่ตลอดเวลา หลังการเช็ดตัวลดไข้ประมาณ 15 นาทีให้วัดอุณหภูมิผู้ป่วยซ้ำ ในผู้ป่วยเด็ก หากมีอาการหนาวสั่นควรหยุดเช็ดตัวทันที และหากอาการยังไม่ดีขึ้น ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์ อุณหภูมิร่างกายเท่าไหร่? ถึงเรียกว่ามีไข้ ข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า จริงๆ แล้วอุณหภูมิร่างกายปกติของคนเรา ไม่ได้คงที่ตลอดเวลา แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในแต่ละช่วงของวัน และอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ต่างกันไป เช่น เพศ อายุ พฤติกรรม หรืออาหารการกิน ในช่วงที่ "Covid-19" ระบาดเช่นนี้ ทุกคนสามารถประเมินอาการตัวเองเบื้องต้น ว่าเสี่ยงหรือไม่? โดย การวัดไข้ด้วยตัวเอง ร่างกายปกติ >> 35. 4 – 37. 4 องศาเซลเซียส มีไข้ต่ำ >> 37. 5 – 38. 4 องศาเซลเซียส ไข้สูง >> 38. 5 – 39. 4 องศาเซลเซียส ไข้สูงมาก >> มากกว่า 40 องศาเซลเซียสขึ้นไป อย่าลืมสังเกตตัวเอง หากมีอาการไข้สูงกว่า 37. 5 องศาเซลเซียส มีอาการ เจ็บคอ ไอ จาม น้ำมูกไหล และหายใจเหนื่อยหอบร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินัยอย่างละเอียด เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที แชร์บทความ ข้อมูลสุขภาพ Covid-19 แม่และเด็ก

Tue, 13 Sep 2022 12:14:02 +0000